อุปกรณ์ไฟสัญญาณเตือน เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เตือนภัยที่ทุกคนเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เพราะแทบทุกสถานที่จะมีการติดไฟสัญญาณเตือนเพื่อสร้างความปลอดภัยนี้ไว้ตลอด ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดอุปกรณ์ไฟสัญญาณเตือน หรือภาคผู้ผลิตอุปกรณ์นี้จึงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
Warning Light หรือ ไฟสัญญาณเตือน บางครั้งอาจเรียกกันว่าไฟหมุน, เสียงเตือน, ไฟหัวเสา, ไซเรนหรือทางสากลนิยมเรียกว่า Beacon Device ซึ่งแล้วแต่จะเรียกกันเวลาซื้อ-ขาย แต่ในทางวิชาการแล้วอุปกรณ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของสัญญาณแสดงสถานะการทำงานของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ แม้กระทั้งกระบวนการผลิตเพื่อเป็นการสื่อสารกับผู้ใช้งาน ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นหรือผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับรู้ถึงสถานะของเครื่องจักรกลว่าเครื่องจักรนั้นทำงานปกติหรือผิดปกติและยังสามารถแจ้งอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
ไม่ว่าจะเป็นการเกิดเพลิงไหม้หรือสารเคมีรั่วไหลโดยสัญญาณเหล่านี้สามารถแสดงหรือส่งสารได้โดยการใช้แสงให้มีการกระพริบหรือหมุนและยังสามารถส่งเสียงเตือนได้มีทั้งแบบเสียงเดียวหรือแบบหลายเสียง ซึ่งรูปแบบของสัญญาณที่แสดงออกมานั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะของการติดตั้งสภาวะแวดล้อมต่างๆ Warning Light จึงถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในการช่วยเพิ่มความปลอดภัยในโรงงาน
โดยส่วนใหญ่ อุปกรณ์ไฟสัญญาณเตือน ที่ใช้กันอยู่ในไทย จะมีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับหลายแบรนด์ หนึ่งในนั้น คือ PATLITE ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สัญญาณเตือน (Scenery Device) ที่ใช้วิศวกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในกระบวนการผลิต ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 เป็นผู้นำของผลิตภัณฑ์ไฟสัญญาณเตือนแบบชั้น, ไฟสัญญาณเตือนบีคอน, สัญญาณเสียงเตือน, ระบบสัญญาณแจ้งเตือนผ่านระบบ Network เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยในเขตพื้นที่การทำงาน
โดยในปัจจุบัน มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 1,000 คนและมีบริษัทสาขาทั้งในอเมริกาเหนือ, สิงคโปร์, จีน,สหราชอาณาจักรม,เยอรมัน, เกาหลี, ไต้หวัน, ประเทศไทยและเม็กซิโก PATLITE ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำจากกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก
สำหรับในประเทศไทย Hiroaki Fujii กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพทไลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ข้อมูลการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพิ่มเติมว่า
“หลังจากที่ PATLITE ได้ขยายตลาดมายังประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 1998 ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตในต่างประเทศและการขยายตลาดมายังภูมิภาคอาเซียน แต่เนื่องจากมีการประมาณการว่ายอดขายครึ่งหนึ่งมาจากประเทศไทย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เริ่มก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา”
“บริษัทมีขยายตัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ ,อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ รวมถึงภาครัฐบาล วิศวกรของเรามีการสั่งสมประสบการณ์นานนับ 10 ปี ในการพัฒนาด้านนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์สัญญาณเตือน เพื่อให้มีประสิทธิภาพระดับสูงตามมาตรฐานของงานอุตสาหกรรม PATLITE มีความหลากหลายในตัวผลิตภัณฑ์ให้เลือกตามความเหมาะสมในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานสำหรับการปรับปรุง การควบคุมคุณภาพการผลิต หรือการเพิ่มระดับความปลอดภัยในเขตโรงงาน”
มาในวันนี้ บริษัท แพทไลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือแต่งตั้งให้ บริษัท ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นการขยายแพลตฟอร์มในการส่งต่อนวัตกรรมไฟสัญญาณเตือนไปยังภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการวางระบบ IIoT หรือ Industrial IoT (Industrial Internet of Things) คือ การเชื่อมต่อเครื่องจักรและระบบอุตสาหกรรมเข้ากับอินเทอร์เน็ตเพื่อนำเอาข้อมูลมา เฝ้าดู ประมวลผล และวิเคราะห์เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ, เพิ่มผลผลิตและลดค่าใช้จ่ายให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างได้ผล
ในโอกาสนี้ Hiroaki Fujii กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพทไลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือครั้งนี้เพิ่มเติมว่า
“สำหรับประเทศไทย มีจุดเด่นที่ทาง PATLITE มองเห็นชัดเจน เมื่อเทียบกับตลาดอื่นในอาเซียน คือ มีโรงงานผลิตรถยนต์มากที่สุด และไม่ใช่แค่บริษัทญี่ปุ่นอย่างเดียวที่มาทำโรงงานผลิตรถยนต์ เพราะตอนนี้ก็มีบริษัททางสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือทางประเทศจีน ที่เข้ามาขยายตลาดมากขึ้น ตรงนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของตลาด อุปกรณ์ไฟสัญญาณเตือน”
“นอกจากนั้น ในไทย ก็เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมอื่นๆ มากมาย เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ไทยก็เป็นประเทศที่ส่งออกอาหารลำดับต้นๆ ของเอเชีย เพราะฉะนั้น ตลาดในไทย จึงมีศักยภาพสูงมากในสายตาของ PATLITE”
“และในวันนี้ เรามองว่า ทีเคเค คอร์เปอเรชั่น เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี ที่มีความเข้มแข็งและมีแนวโน้มที่ดีในการขยายตลาดไปได้ไกลอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง การมีบริษัทในเครืออย่าง KSI Solution ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำซอฟแวร์ โซลูชั่น ต่างๆ ที่สามารถขยายตลาดไปได้ไม่ใช่แค่ที่ญี่ปุ่นอย่างเดียว แต่เป็นบริษัทในไทยเอง ที่อาจจะอยากได้นวัตกรรมที่ทาง PATLITE มีความเชี่ยวชาญในการผลิต ทางทีเคเค คอร์เปอเรชั่น ก็สามารถเป็นสื่อกลาง ทำให้เกิดความร่วมมือกันผลิตสินค้าหรือนวัตกรรมใหม่ๆที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เช่นกัน”
“ดังนั้น ภายหลังจากการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ทาง PATLITE ก็จะร่วมมือกับทาง ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น นำเสนอโซลูชั่นให้ที่เหมาะสมให้ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เพราะได้ร่วมมือกันอย่างเป็นทางการแล้ว อย่างการเสนอขาย ไฟสัญญาณเตือนเน็ทเวิร์ค หรือไฟสัญญาณเตือนที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเรามองว่า ทั้ง PATLITE และ ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น จะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือครั้งนี้อย่างเต็มที่”
“ทั้งนี้ นโยบายล่าสุดในการขยายตลาดของ PATLITE เรามุ่งเน้นไปทางสินค้า IoT เป็นหลัก โดยเฉพาะ อินเทอร์เน็ต ยูเอสบี ต่างๆ ให้สามารถควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ได้ หรือผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งตอนที่ทาง PATLITE ได้เริ่มผลิตสินค้าประเภทนี้ ในตลาดยังมมีสินค้านี้อยู่น้อยมาก เพราะฉะนั้นเราจึงอยากเป็นผู้นำตลาดในการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองเทคโนโลยี IoT เป็นหลักอยู่แล้ว”
“เพราะฉะนั้น กลยุทธ์การตลาดในตอนนี้ของ PATLITE จึงมุ่งให้บริการอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงภาพและโซลูชัน IoT ที่ใช้งานง่ายสำหรับหลากหลายสาขา เช่น ไซต์การผลิต สำนักงาน และยานพาหนะฉุกเฉิน โดยใช้แสง เสียง และข้อความ และผลิตสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ 2 ด้านหลัก คือ
- พัฒนา ผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์เตือน เช่น ไฟแสดงสถานะ ไฟหมุน เสียงและตัวสังเคราะห์เสียง และไฟเตือน
- พัฒนา ผลิต จำหน่าย และเสนอโซลูชัน IoT โดยใช้เทคโนโลยีไร้สายและเครือข่าย”
ด้าน Yuji Ito Product Director บริษัท ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้เพิ่มเติมด้วยว่า
“ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น มีความเชี่ยวชาญในด้านของสินค้าและโซลูชั่นด้านอุตสาหกรรม และจากประสบการณ์การที่เห็นภาพของ Process การผลิต เครื่องจักรต่างๆ เห็นได้ว่าในแทบทุกๆ โรงงานต่างก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สินค้าที่เป็นอุปกรณ์ในประเภทของสัญญาไฟ ซึ่งจริงๆ แล้วในตลาดของสินค้าประเภทไฟสัญญาณนี้มีหลากหลายแบรนด์”
“แต่สิ่งที่แบรนด์ของ PATLITE มีความโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ ก็คือเรื่องของ คุณภาพ และเทคโนโลยีของสินค้าที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งจากจุดนั้นเราจึงได้จับมือกับ PATLITE และเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการสินค้าของ PATLITE อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมากอย่างต่อเนื่อง นับรวมระยะเวลาก็กว่า 5 ปี ซึ่งเราเป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน”
“จากการร่วมมือในครั้งนี้ ทาง ทีเคเค และ PATLITE จะผนึกกำลัง เพื่อผลักดันให้สินค้าขอ PATLITE ให้ขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ด้วยการที่ทาง ทีเคเค นั้นเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร่วมกับภาคอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้เรานั้น มีเรื่องคอนเน็คชั่นที่เข้มแข็ง ที่จะสามารถเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไทย ญี่ปุ่น หรือจีน แต่ในขณะเดียวกันในประเทศไทยก็ยังมีลูกค้าอีกจำนวนไม่น้อยที่เรายังสามารถที่จะสร้างโอกาสในการนำสินค้าของ PATLITE เข้าไปสู่กลุ่มลูกค้าเพิ่มเติมได้อีกมาก”
“นอกจากนี้ ทาง PATLITE เองก็ยังมีการพัฒนาสินค้าที่เป็นสินค้าด้าน IoT ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของทีเคเค และจะร่วมมือกันในการที่จะช่วยสนับสนุน และเติมเต็มให้การผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยพัฒนาให้เป็น Smart Industry ได้อย่างเต็มระบบมากยิ่งขึ้นด้วย
ข่าวจาก salika.co
